top of page
Search
  • TALIW

ทริปในฝัน 41 วัน ครึ่งซีกโลก สุดรางปลายทางยุโรป


นิยามของความประทับใจ... "หนังสือเล่มนี้คือ ความดีงาม" นี่คงเป็นนิยามที่ตรงใจที่สุดของหนังสือท่องเที่ยวเล่มแรกที่ฉันอ่าน

"ดีงาม" ณ ที่นี้มิใช่เพียงภาพสวยจนสะกดสายตา แต่รวมถึงเรื่องเล่าของการเดินทางที่ถ่ายทอดออกมาได้อย่างสนุกจนวางไม่ลง เรื่องราวที่เล่าผ่านสวนอักษร ชักจูงให้ฉันจมไปกับเหตุการณ์ที่หมอโจ้และหมอวินพาเราไปเยือน

...มิใช่เพียงบอกเล่าถึงวิธีการเดินทาง สถานที่ที่ต้องไป และสกุลเงินที่ต้องใช้ แต่บอกเล่าถึงอุปสรรค์ที่มาพร้อมการแก้ปัญหา รวมทั้งบอกเล่าถึงความสุข ความสนุก ความประทับตลอดการเดินทางในครึ่งซีกโลก และเรื่องเล่าบนหน้ากระดาษนี้เอง ที่จุดประกายเติมเชื่อไฟให้แรงขับเคลื่อนความฝันที่ใกล้มอดดับให้ลุกโชนอีกครั้ง ...ความฝันคือตัวแทนของเราในอนาคต ส่วนความจริงคือตัวแทนของเราในปัจจุบัน ... แต่ตราบใดที่ความฝันกับความจริงยังไม่รู้จักกัน หน้าที่ของเราคือทำให้เขาทั้งสองเจอกันนั่นเอง ทริปในฝัน 41 วัน ครึ่งซีกโลก สุดรางปลายทางยุโรป... ไม่เพียงเติมเชื่อเพลิงให้ไฟแห่งฝันลุกโชนเท่านั้น แต่หนังสือเล่มนี้ยังเติมเต็มความสุนทรีย์ที่มาพร้อมความฮาให้อารมณ์ที่เคร่งเครียดนี้ด้วย โดยเฉพาะเมื่อฉันไม่คาดฝันว่าจะเจอ "คติ" หรือ "คำคมๆ" บาดใจจากหนังสือท่องเที่ยว... อาทิ "ล้มเหลว" ไม่มีอยู่จริงหรอก มีแต่เราล้มเลิกไปก่อน... แค่นั้นเอง เป้าหมายอยู่สูง เราก็ต้องหาทางปีนไปให้ถึง การใช้ทางลัดช่วยให้เราก้าวสู่เป้าหมายได้เร็วขึ้น แต่บางทีมักจะขาดหายสิ่งที่เราได้รับระหว่างทางไป ...สิ่งที่ได้รับระหว่างทางมีความสำคัญไม่แพ้จุดหมายปลายทาง คุณค่าของความพยายามจะเปิดเผยตัวตนเมื่อเวลาแห่งความสำเร็จนั้นมาถึง การเดินทางคนเดียวไม่ใช่เรื่องน่ากลัว การกลัวการเดินทางคนเดียวกลับเป็นสิ่งที่น่ากลัวมากกว่าเสียอีก .... และแน่นอนว่าหนังสือเล่มนี้ไม่สามารถนำมาอ้างอิงหรือใช้เดินทางสำหรับคนที่คิดจะไปท่องโลกได้ (ถึงจะมีข้อมูลแต่ละเมืองอยู่ใน 2-3 หน้าสุดท้ายของแต่ละบทก็ตาม) ------------------------------------------------------------------- ข้อมูลหนังสือ... หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือเล่มที่ 2 ของ "ทริปในฝัน 41 วัน ครึ่งซีกโลก" โดยเล่มแรกมีชื่อว่า "ทริปในฝัน 41 วัน ครึ่งซีกโลก จุดเริ่มต้นบนรถไฟทรานส์ - ไซบีเรีย" ซึ่งเป็นบันทึกการเดินทางของหมอจบใหม่ 2 คน "หมอโจ้" และ "หมอวิน" โดยใช้นามปากกาว่า "หมอๆ ตะลุยโลก" โดยเป็นลิขสิทธิ์ของสำนักพิมพ์อมรินทร์ท่องโลก อย่างที่บอกไป... หนังสือเล่มนี้เป็นบันทึกการเดินทางในครึ่งซีกโลกที่ใช้เวลา 41 วัน โดยมีเพียงสองเท้ากับมันสมองเป็นอาวุธในการเดินทาง

และมีย่อหน้าบนปกหลังที่ชักชวนให้อ่านอยู่ว่า... บทสุดท้ายของการเดินทางแห่งแรงบันดาลใจ ทริปในฝัน 41 วัน ครึ่งซีกโลก หลังจากรถไฟทรานส์ - ไซบีเรียเทียบชานชาลา สถานีมอสโกแห่งประเทศรัสเซีย หมอๆ ก็ตะลุยโลกกันต่อในยุโรปที่ไม่ได้ราบรื่นชวนฝันเหมือนภาพวาดสวยๆ ในโปสต์การ์ด กลับมีแต่ความโหดหฤหรรษ์ที่เพิ่มมากขึ้นตามระยะทาง 17 เมือง กับสิบกว่าวันที่จะลืมไม่ลงไปเป็นร้อยปี ------------------------------------------------------------------- จุดเริ่มต้นของการเดินทางในสวนอักษร... เห็นหนังสือเล่มนี้มาสักพักใหญ่ๆ แล้ว แต่ฉันไม่เคยสนใจที่จะหยิบมาอ่านเลยสักนิด แต่เพราะ "งาน" ที่รับผิดชอบด้วยการทำโปรโมทหนังสือเล่มนี้บนเว็บไซต์ที่ดูแลอยู่ ความสงสัยก็บังเกิด... 'หนังสือเล่มนี้สนุกขนาดน้านนนนหรอ?' เมื่อเย็นวันศุกร์ (22.05.2015) ที่ไม่สามารถทำงานได้ เพราะระบบหลังบ้านมีปัญหา ฉันจึงหยิบหนังสือเล่มนี้มาอ่าน โดยมิได้คาดหวังว่าจะชอบและอ่านจนจบ

ใช่! อาจเพราะไม่คาดหวัง และไม่เคยอ่านหนังสือท่องเที่ยวหรือบันทึกการเดินทางมาก่อน ...ฉันจึงตกหลุมรักหนังสือเล่มนี้เข้าอย่างจัง จนต้องหยิบติดไม้ติดมือใส่กระเป๋ากลับมาอ่าน... จนจบ! เมื่อหนังสือเล่าเรื่องโดยคุณหมอ 2 คน แน่นอนว่าการเปรียบเทียบย่อมเกิดขึ้น (ในใจ)

เปล่า... ฉันไม่ได้จะมาบอกว่าใครเขียนดีกว่าใคร เพราะนักเขียนทั้งสองคนต่างเล่าเรื่องผ่านตัวอักษรได้อย่างดีเยี่ยม แต่ด้วยจริตส่วนตั๊วส่วนตัว ฉันชอบการเล่าเรื่องของ "หมอโจ้" มากกว่า เรื่องเล่าของ หมอโจ้ เป็นเรื่องความคิด ความรู้สึก และสิ่งที่พบเห็น ไม่ใช่เรื่องส่วนตั๊วส่วนตัวจนเกินไป แต่ก็ไม่ได้เล่าเรื่องประวัติสถานที่และการเดินทางมากเกินไป ...เรื่องเล่าของหมอโจ้จึงมีรสชาติกลมกล่อม อร่อยถูกปาก ส่วนเรื่องเล่าของหมอวิน บางครั้งก็หวานไป แต่บางตอนก็เปรี้ยวไป ยังขาดรสมือของความพอดี

แต่เมื่อเรื่องเล่าของหมอทั้งสองมาคลุกเคล้าอยู่บนหนังสือเล่มเดียวกัน กลับสร้างอรรถรสที่พอดี อีกสิ่งที่มิใช่ความผิดพลาดของหมอๆ ตะลุยโลก แต่ขอโยนให้เป็นความผิดของสำนักพิมพ์ คือ การเลือกใช้ "สี" ของหน้ากระดาษ ก็เข้าใจนะว่าสำนักพิมพ์เลือกใช้สีเป็นตัวแทนการเรื่องเล่าของหมอๆ (หรือเป็นความคิดของหมอเองก็ไม่รู้) แต่การเลือกให้กระดาษมีพื้นหลังเป็นสีๆ โดยมีตัวอักษรเจาะขาวนี้ ทำให้คนอ่าน (หรือฉันคนเดียวก็ไม่รู้) ปวดตาจนต้องวางหนังสือลงหลายต่อหลายครั้ง แม้สุดท้าย ฉันจะอ่านหนังสือเล่มนี้จนจบ และยังมานั่งพิมพ์เรื่องราวความประทับใจเป็นลายลักษณ์อักษรก็ตาม เพราะอย่างน้อย ฉันจะได้จำได้ว่าครั้งหนึ่ง "ทริปในฝัน 41 วัน ครึ่งซีกโลก สุดรางปลายทางยุโรป" ได้เติมไฟขับเคลื่อนความฝันให้ลุกโชนขึ้นอีกครั้ง เพราะ... "ความฝันคือสิ่งที่คอยหล่อเลี้ยงพลังในการใช้ชีวิตของผม" - หมอๆ ตะลุยโลก

### ทริปในฝัน 41 วัน ครึ่งซีกโลก สุดรางปลายทางยุโรป โดยหมอๆ ตะลุยโลก (หมอโจ้ - หมอดิว) สำนักพิมพ์อมรินทร์ท่องโลก

bottom of page