top of page

ABOUT ME...

MEE_7950.jpg

หญิงสาวที่คลั่งไคล้การอ่านหนังสือนิยาย... มิใช่นักเขียนมากความสามารถอะไร
 

แต่ด้วยใจรัก เมื่ออ่านหนังสือจบลง จึงอดไม่ได้ที่จะขีดๆ เขียนๆ หนังสือโดนใจเหล่านี้

 

...มิใช่เพื่อการรีวิวหรือวิจารณ์
...แต่เพื่อตอบสนองความต้องการของตัวเอง
...เพื่อในวันข้างหน้า เมื่อหยิบนิยายเหล่านี้มาเปิดอ่านอีกครั้ง จะได้จดและจำได้ว่าเคยประทับใจเรื่องนี้อย่างไร

 

#Taliw

ชัยชนะที่ยังมาไม่ถึง

“...ความฝันคือตัวแทนของเราในอนาคต 
ส่วนความจริงคือตัวแทนของเราในปัจจุบัน
แต่ตราบใดที่ความฝันกับความจริงยังไม่รู้จักกัน 
หน้าที่ของเราคือ ทำให้เขาทั้งสองเจอกันนั่นเอง”
 


- ทริปในฝัน 41 วัน ครึ่งซีกโลก สุดรางปลายทางยุโรป

ประโยคนี้เสมือนค้อนปอนที่ทุบลงกลางใจ เพื่อตอกย้ำความฝันที่เริ่มเลือนรางไปตามกาลเวลาและภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ

จริงอยู่ที่ว่าเราทุกคนต่างมี "หน้าที่" เป็นของตัวเอง และหลายครั้งหน้าที่นั้นก็เป็นเพียง 'สิ่งที่ต้องทำ' แต่ไม่ใช่ 'สิ่งที่อยากทำ' และเมื่อเรามัวแต่ก้มหน้าก้มตาทำในสิ่งที่ต้องทำ ทำให้บางครั้งเราก็ลืมเลือนสิ่งที่อยากทำไปเสียสนิท กว่าจะคิดได้ เวลาก็ร่วงเลยไปไกลเสียแล้ว

หลายคนเคยพูดให้ฟังว่า เราสามารถทำหน้าที่ไปพร้อมๆ กับทำความฝันได้ 

แต่ใช่ว่าเราทุกคนจะทำทั้งสองอย่างในเวลาเดียวกันได้ เพราะในชีวิตจริงเราเลือกทำได้เพียงสิ่งใดสิ่งหนึ่งเท่านั้น ...หากเลือกความฝัน เราอาจจำต้องละทิ้งหน้าที่ และไม่สามารถมองเห็นแสงว่างในอนาคต แต่หากเลือกหน้าที่ ความฝันนั้นก็คงไม่มีวันเป็นจริง 

นี่เป็นสถานการณ์ของคนที่มีสิทธิ์เลือกได้อย่างใดอย่างหนึ่ง

หากมองอีกแง่หนึ่ง สำหรับคนที่จำต้องละฝัน อาจจะมี "แรงใจ" มากกว่าคนที่กำลังมุ่งทำฝันให้เป็นจริง เพราะเขาเหล่านั้นรู้ว่ายังมีเป้าหมายอีกหนึ่งให้ต้องฮึดสู้ แม้ในวันนี้จำต้องวางฝันไว้เบื้องหลัง แต่ในอนาคตเมื่อเรามีฐานที่มั่นคงพอ เราคงพร้อมที่จะปล่อยมือข้างหนึ่งเพื่อเอื้อมคว้าฝันนั้น พร้อมที่จะลงสนามและวิ่งแข่งกับอุปสรรค โดยมีความฝันเป็นชัยชนะอันหอมหวาน

เพราะอย่างน้อยเราก็ยังมี 'ฝัน' เป็นชัยชนะในทางข้างหน้า แม้จะยังไม่เริ่มออกวิ่งจากจุดสตาร์ท ซึ่งดีกว่า "คนไร้ฝัน" ที่วิ่งเท่าไรก็ไม่ถึงเส้นชัยสักที

bottom of page