มา "สัมผัสรัก" จากอาฮุ้ง
- TALIW
- Dec 10, 2015
- 2 min read
2+X = 5 "เอกซ์เท่ากับสาม" น้ำอุ้นตอบแบบไม่ต้องคิด สมการง่ายๆ แค่นี้ไม่ใช่เรื่องเกินความสามารถของหล่อน แต่นั่นทำให้คำถามที่สองตามมา "แล้วเธอว่านอกจากสามแล้ว เอกซ์ยังมีโอกาสเป็นเลขอื่นได้อีกไหม" น้ำอุ่นสายหน้าทันที แต่ติวเตอร์ประจำตัวกลับเฉลยว่า "มี" คนฟังอ้าปากเตรียมเถียง แต่แล้วสิ่งที่ภูมิพูดต่อมาทำเอาเจ้าหล่อนแทบสะอึก "...แต่สมการนี้จะไม่มีทางเป็นจริง" ภูมิเว้นจังหวะให้ลูกศิษย์ได้ตกผนึกความคิดและอธิบายต่อ "เงื่อนไขของสมการที่เป็นจริงก็คือ ทั้งหน้าและหลังเครื่องหมายเท่ากับ จะต้องเท่ากัน ก็เหมือนคนจะรักกัน ที่ทั้งสองฝ่ายต่างก็ต้องมีความรู้สึกรักเหมือนกัน ไม่ใช่แค่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ...น้ำ อุ่น ในที่นี้เธออาจเป็นเอกซ์ แต่เอกซ์ของเธอไม่ใช่เลขสาม มันจึงบวกกับสองแล้วไม่เท่ากับห้าสักที ความรักที่เธอมีให้พี่พุทธก็เหมือนกัน เธอรักเขา แต่เขาไม่ได้รักเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่ใช่ คำตอบที่ทำให้สมการความรักครั้งนี้เป็นจริง"... ฉากหนึ่งที่อธิบาย "ความรัก" กับ "สมการเลขคณิต" ได้อย่างน่าประทับใจ จนต้องหยิบยกมาให้คุณได้ชื่นชมไปด้วยกัน ฉากนี้เป็นฉากเกือบจบของเรื่อง "สัมผัสรัก" ของผู้เขียนนามปากกา "อาฮุ้ง" และเป็นนิยายเรื่องที่ 6 ในซีรีย์ "บ้านน้อยซอยเดียวกัน" ของสำนักพิมพ์คำต่อคำ สำหรับซีรีย์บ้านน้อยซอยเดียวกัน เป็นซีรีย์ที่มิอาจรู้ได้ว่าจะมีกี่ตอนกี่เล่มจบ และซีรีย์นี้ยังใช้นักเขียนหลายคนในการปั่นแต่งเรื่องราวให้สมบูรณ์ เริ่มจาก "บ้านตุ๊กตา" โดยดวงตะวัน นิยายเล่มแรกของซีรีย์นี้ ตามมาด้วย "ต้องฤทธิ์รัก" โดยอุมาริการ์, "หัวใจล้อมรัก" โดยลัลลาบาย, "หนึ่งคำรัก" โดยอิสย่าห์, "ฉากซ่อนรัก" โดยปองวุฒิ และล่าสุด "สัมผัสรัก" โดยอาฮุ้ง ซึ่งนิยายทั้ง 6 เรื่องที่มาจากนักเขียน 6 คนด้วยกัน ทำให้ซีรีย์นี้มีความต่างที่ทำให้ได้อรรถรสในการอ่านต่างกันไป แม้จะมีนักเขียน 6 คน (และคนที่ 7 กำลังจะเกิดตามกันมา) กับความสนุกที่ต่างกันไปถึง 6 แบบ แต่บ้านน้อยซอยเดียวกันก็ยังคง "ความเป็นซีรีย์" หรือความต่อเนื่องทั้ง 6 เล่มอยู่นั่นเอง ทั้งจาก "จุดพิกัด" ซึ่งทุกเล่มทุกเหตุการณ์ต่างอุบัติเรื่องราวใน "ซอยทองคำ" อาจแตกต่างกันไปบ้างในสถานที่อย่าง 'บ้าน' หรือ 'หมายเลขซอย' ที่เกิดเรื่อง และอีกหนึ่งความต่อเนื่องคือ "ตัวละคร" ที่ทุกเรื่องต่างมีพระ-นางเข้ามาสวมบทบาทเป็น 'ตัวประกอบ' อาทิ พระเอก-นางเอก จากเรื่องบ้านตุ๊กตา จะกลายเป็นตัวประกอบในเรื่องที่สอง หรือพระนางของทั้ง 5 เล่ม ก็กลายมาเป็นตัวประกอบที่ช่วยสร้างสีสันให้กับ "สัมผัสรัก" นั่นเอง ...ตัดฉากกลับมาที่นิยาย "สัมผัสรัก" เรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่ครบเครื่องเรื่องบันเทิง ทั้งรสจัดจ้านแสบสันของ “น้ำอุ่น” และ “น้ำตาล” หรือรสหวานมุ้งมิ้งของผู้ชายกล้ามโตอย่าง “พี่พุทธ” และที่ขาดไม่ได้คือปริศนาลึกลับที่เร่งเร้าให้เราติดตามจนวางไม่ลง ...จึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากนิยายเรื่องนี้จะกลายเป็นนิยายติดอันดับอีกเรื่องของสำนักพิมพ์ ณพุทธ หมอหนุ่มผู้ชำนาญการด้านหัตถเวช ไม่เคยคิดว่า จะได้เข้าไปรับรู้เรื่องราวซับซ้อนในครอบครัวของใคร กระทั่งได้พบคนไข้ของเขา--หญิงสาวผู้อยู่ในสภาพผักถาวรจากอุบัติเหตุเมื่อห้าปีก่อน ยิ่งวันที่การรักษาของเขาก้าวหน้า หมอหนุ่มกลับพบว่าความสัมพันธ์ในครอบครัวคนไข้ของเขายิ่งถอยหลัง ณพุทธมั่นใจว่ามีอะไรบางอย่างอยู่เบื้องหลังความสัมพันธ์อันคลุมเครือระหว่างหนุ่มใหญ่เจ้าของบ้าน สาวน้อยหัวรั้น คนไข้สาวในสภาพผัก และคุณหมอคนสวยที่เข้าออกบ้านหลังนี้ไม่ต่างจากสมาชิกอีกคน หมอหนุ่มรู้เพียงว่า ภายในบ้านหลังงามที่มีรั้วรอบขอบชิด ยังมีเรื่องราวลึกลับและลึกล้ำของความรัก รวมทั้ง ‘จุดกดเจ็บ’ ที่ฝังลึก รอให้ใครสักคนค้นเจอ...และเยียวยา -- เรื่องย่อจาก dbooksgroup.com ใช่แล้ว... เรื่องนี้มีตัวละครสำคัญอยู่ที่ “ณพุทธ– พี่พุทธ” หมอนวดหนุ่มอารมณ์ดี ผู้ชายอารมณ์มุ้งมิ้งที่ย้ายเข้ามาอยู่ในซอยทองคำ 12 โดยการย้ายมาครั้งนี้ ไม่ใช่เพียงการย้ายบ้านแต่ยังเป็นการย้าย “บ้านสุขกาย” สถานที่รักษาคนป่วยด้วยสองมือหรือที่รู้จักกันว่า นวด นั่นเอง จนกระทั่ง “อ้น– อานันท์” เจ้าของบ้านต้นซอยทองคำ 11 ได้ขอให้เขาช่วยไปรักษาภรรยาที่รัก “น้ำหวาน” ผู้หญิงที่อยู่ใน 'สภาพผักถาวร' ทำได้เพียงนอนนิ่งๆ บนเตียงโดยไม่รับรู้อะไรเลย (สภาพผักถาวร คล้ายๆ เจ้าหญิงนินทรา ขยับเขยือนหรือพูดคุยก็ไม่ได้ ทำได้เพียงนอนนิ่งๆ เป็นผักอยู่บนเตียงเท่านั้น) การที่ณพุธทเข้าไปช่วยนวดช่วยรักษา ผสานกับอัธยาศัยดีและมีจิตใจงาม ทำให้เขาเข้ากันได้กับทุกๆ คน โดยเฉพาะ “น้ำอุ่น” ลูกสาวเจ้าของบ้านที่มีนิสัยเอาแต่ใจและไม่รู้จักเคารพผู้หลักผู้ใหญ่ (เพราะน้ำอุ่น ไม่ได้รับการสั่งสอนที่ดี เธอเรียนแบบโฮมสคูล การอบรมสั่งสอนและประสบการณ์ชีวิตจึงมีน้อยกว่าเด็กคนอื่น) แม้ณพุทธจะเป็นคนน่ารักแค่ไหน แต่ในสายตาของ “น้ำตาล - ศราพร” น้าสาวของน้ำอุ่นและหมอแผนปัจจุบันที่มีอคติกับการนวดแบบสุดๆ กลับมองว่าเขาเป็นพวกไม่น่าไว้ใจ แต่แล้วความใกล้ชิด ความจริงใจ (ที่มาพร้อมการหยอดความหวาน) และความใจดีของณพุทธก็ทำให้หัวใจของคุณหมอสาวสันคลอน ...คุณหมอสาวจึงตกหลุมกับดักของหมอหนุ่มเข้าไปเต็มๆ แต่เรื่องราวความรักครั้งนี้ไม่ได้ราบเรียบเสมอไป กว่าคนทั้งคู่จะยอมเปิดใจให้กัน คนอ่านก็ลุ้นจนหัวใจแทบออกมาเต้นนอกอกกันอยู่แล้ว เรื่องนี้ยังมีนางมารน้อยที่ชื่อว่า น้ำอุ่น มาขัดขวางความรักจนถึงบทสุดท้ายอีก ...ช่างเป็นความรักที่มีอุปสรรคมากมายกว่าคู่พระนางอื่นๆ นอกจากณพุทธต้องมาลุ้นให้ต้นรักต้นนี้เติบโตแล้ว ยังต้องมา “ไขปริศนา” พร้อม “ฟื้นฟู” ความสัมพันธ์ของ “น้า – หลาน” อย่างน้ำตาลกับน้ำอุ่น – ความสัมพันธ์ของญาติที่ควรสนิทสนมกัน แต่กลับกลายเป็นความห่างเหินจนถึงขั้นโกรธเกลียดกัน ซึ่งปริศนานี้มิใช่เพียงเรื่องความขัดแย้งทั่วไป แต่ยังกลายเป็นปัญหา “ครอบครัว” ที่แตกร้าวจนเกือบแตกหัก ... ทำไมน้ำอุ่นถึงได้เกลียดน้าของตัวเองมากขนาดนั้น? แล้วที่น้ำอุ่นบอกว่าเห็นน้าสาวของตัวเองจูบกับพ่อนั้น เป็นเพียงความเข้าใจผิดหรือเรื่องจริง? คำถามเหล่านี้ช่างยั่วยวนให้เราเร่งอ่านเพื่อไขคำตอบเหลือเกิน ดังนั้นณพุทธ จึงไม่ใช่เพียงหมอนวดผู้มีฝีไม้ลายมือขั้นเทพเท่านั้น แต่เขายังเป็นผู้ค้นหา “จุดกดเจ็บ” พร้อมเดินหน้า “เยียวยา” ให้หัวใจของทุกคนกลับมาแข็งแรงอีกครั้ง ส่วนข้อคิดดีๆ ที่นิยายของสำนักพิมพ์นี้มักสอดแทรกเอาไว้นั้น สำหรับเรื่องนี้ ขอยกตัวอย่างมานำเสนอสักสองข้อ... ข้อแรก ชีวิตคู่ต้องมีมากกว่าคำว่า “รัก”... ความแตกร้าวที่เกิดขึ้นมานี้ มีจุดเริ่มต้นจาก “ความระแวง” และ “ความไม่เชื่อใจ” ทำให้ชีวิตคู่ที่ราบรื่นต้องสั่นคลอน โดยผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ “ลูก” ...การสร้างครอบครัวและการใช้ชีวิตจึงไม่ใช่เพียง “ความรัก” ที่มีต่อกันเท่านั้น แต่ต้องมี “ความเชื่อใจ” กันและกันอีกด้วย และนี่ก็คือสิ่งที่อาฮุ้งสื่อผ่านตัวอักษรบนหน้ากระดาษนับร้อยหน้า และอีกหนึ่งข้อดีๆ ที่อาฮุ้งบอกกับคนอ่านนั่นคือ ความเข้าใจถึง “ผู้ชำนาญการด้านหัตถเวช” หรือหากจะเรียกให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือหมอนวดนั่นเอง ซึ่งสิ่งนี้อาฮุ้งช่วยปรับทัศนคติพร้อมเพิ่มความเข้าใจให้ใครหลายคนรู้ว่า “การนวด” ที่เราคุ้นเคยนั้น ไม่ใช่เพียงการนวดเพื่อผ่อนคลายหรือนวดสปาเท่านั้น แต่ยังมีการนวดเพื่อการรักษาอีกด้วย... อาจไม่สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่อย่างน้อยกสามารถช่วยรักษาเส้นสายและกล้ามเนื้อที่สึกหล่อได้ องค์ประกอบสำคัญที่ทำให้นิยายเรื่องนี้เข้มข้นและมีอรรถรส นั่นคือ “ตัวละคร” แน่นอนว่าพระ-นางของเรื่อง ย่อมเป็นตัวละครสำคัญและมีคาแรคเตอร์โดดเด่นอยู่แล้ว แต่สำหรับเรื่องนี้ยังมีตัวละครอีกตัวที่มาเติมสีสันให้เรื่องจัดจ้าน นั่นคือ “น้ำหวาน” ตัวละครที่ไร้อารมณ์ เพราะเธอมีสภาพเป็นผักถาวร แต่เธอกลับสร้างเรื่องราวและเป็นคนดำเนินเรื่องที่สำคัญที่สุดอีกด้วย น้ำหวาน – เปรียบเสมือนจุดศูนย์กลางของตัวละครทุกตัวและเป็นตัวละครที่จุดชนวนความวุ่นวายของเรื่อง เกือบทุกฉากทุกตอนของเรื่อง น้ำหวานจะเข้ามามีส่วนร่วมอยู่เสมอ เพราะเหตุการณ์ส่วนใหญ่เกิดวนเวียนอยู่รอบๆ เตียงที่เธอนอนอยู่ นอกจากนี้แม้เธอจะไร้การเคลื่อนไหว ไร้อารมณ์ความรู้สึก แต่เรากลับสัมผัสตัวตนและเข้าใจเธอได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ เรื่องนี้คงต้องยกความดีความชอบให้อาฮุ้งไปเต็มๆ เพราะอาฮุ้งสามารถทำให้ตัวละครที่มีสภาพผักถาวรถ่ายทอดความรู้สู่คนอ่านได้ด้วยการให้เธอมีส่วนร่วมกับทุกเหตุการณ์ดั่งที่กล่าวไปแล้ว และยังถ่ายทอดอุปนิสัยของเธอผ่านไดอารี่ออนไลน์ คำบอกเล่าของสามีที่ชื่ออ้น ฯลฯ องค์ประกอบสุดท้ายที่ทำให้เรื่องนี้เจิดจรัสนั่นคือ “การเล่าเรื่อง” -- เรื่องนี้ใช้กลวิธีการเล่าที่ไม่ได้หวือหวาหรือแตกต่างจากนิยายเรื่องอื่นๆ แต่เรื่องนี้เล่าเรื่องเป็นจังหวะที่มีช้ามีเร็วได้อย่างลงตัว ทั้งจังหวะเนิบช้าให้คนอ่านได้ละเมียดละไมความสนุกอย่างช้าๆ แต่บางช่วงจังหวะก็ดำเนินในท่วงทำนองร็อคแอนด์โรล ชวนให้หัวใจเต้นเร็วและเร้าใจจนหยุดไม่อยู่ จึงไม่แปลกหากคนอ่านหลายๆ คนจะวางนิยายเรื่องนี้ไม่ลงจนต้องอ่านกันแบบโต้รุ่ง...คนเขียนก็เช่นกัน สุดท้ายของจบการเขียนเรื่องนี้ด้วยคำนิยามจากสำนักพิมพ์คำต่อคำที่บอกเล่าความสนุกของ "สัมผัสรัก" ได้สั้น กระซับ และเข้าใจง่าย... | สัมผัสรัก เป็นนิยายที่มีองค์ประกอบครบถ้วนเท่าที่ “นิยายอ่านสนุก” เล่มหนึ่งจะพึงมี คือพล็อตเรื่องที่คาดเดาได้ยาก ตัวละครน่าสนใจ ดังเช่นพระเอกทรงเสน่ห์ มีอารมณ์ขัน แต่ก็มีมุม หม่นมัวให้ค้นหา, ฉากรักในเรื่องโรแมนติกและแพรวพราวด้วยแก๊กชวนใจละลาย นอกจากนี้ยังแฝงสาระเกี่ยวกับจิตวิทยาการดูแลผู้ป่วยและแพทย์ทางเลือกไว้อย่างแนบเนียน แม้ผู้เขียนจะเป็นนักเขียนหน้าใหม่ แต่มีประสบการณ์โชกโชนจากการเขียนบทละครโทรทัศน์และละครเวที จึงนำทักษะการเล่าเรื่องของสื่อภาพเคลื่อนไหว มาใช้กับงานวรรณกรรมได้อย่างเหมาะเจาะ ลงตัว ...สัมผัสรัก เป็นนิยายอีกเรื่องหนึ่งที่สำนักพิมพ์มีความภูมิใจนำเสนอเป็นอย่างยิ่ง | ###

Comments