top of page
Search

"จันทน์กะพ้อ" ความผิดหวังที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า!

  • Taliw
  • May 14, 2016
  • 2 min read

โดยปกติหากมีหนังสือเล่มไหนที่พออ่านแล้วไม่สนุกก็จะปล่อยผ่านไป ไม่มาพูดมาบอกต่อ เพราะเราคงอยากเก็บความรู้สึกดีๆ ต่อสิ่งที่รักมากกว่าความรู้สึกแย่ๆ แต่สำหรับเรื่อง "จันทน์กะพ้อ" เรื่องนี้เป็นหนังสือเล่มแรกที่อยากเขียนบันทึกขึ้นเพื่อเก็บรักษาความรู้สึก 'ผิดหวัง' เอาไว้

ก่อนอื่นของเกริ่นก่อนว่า "จันทน์กะพ้อ" เป็นนิยายจากปลายปากกาของนักเขียนที่ใช้นามปากกาว่า "ฬีฬา" จากสำนักพิมพ์บ้านวรรณกรรม โดยนักเขียนคนนี้ฝากผลงานให้นักอ่านได้ชมกันมามากมาย ตั้งแต่ รหัสรักในดวงใจ, แม่ค้าขนมหวาน, พลับพลึงสีรุ้ง, ดวงตาในดวงใจ, มนตร์เพียงรัก ฯลฯ และในผลงานเหล่านี้ก็มีหลายเรื่องที่ได้รับการนำไปเขียนเป็นบทโทรทัศน์และสร้างชื่อเสียงมากมายอีกด้วย

ส่วนเล่มจันทน์กะพ้อนี้เป็นนิยายเรื่องที่ 2 ต่อจากเรื่อง "พะนอขวัญ" นิยายที่เรียกชื่อเสียงของฬีฬากลับมาอีกครั้ง หลังจากที่นักเขียนคนนี้หายหน้าหายตาไปจากวงการมานาน เมื่อได้ยินข่าวมาว่าจะมีเล่มที่ 2 ในชื่อจันทน์กะพ้อออกมาให้ได้อ่านกันอีกครั้ง แฟนคลับฬีฬาคนนี้จึงรู้สึกดีใจและตื่นเต้นมาก พร้อมทั้งยังตั้งหน้าตั้งตารออ่านเรื่องนี้เลย แต่สุดท้ายก็ได้พบแต่ความผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่า

ขอเท้าความกลับไปสักนิดก่อนว่าเรื่องพะนอขวัญ เป็นเรื่องของ “น่านฟ้า” พี่ชายคนโตของตระกูลอังสนากับ “พะนอขวัญ” ส่วนจันทน์กะพ้อนั้นเป็นเรื่องราวของ “เขตชล” ลูกคนกลางของตระกูลอังสนากับ “จันทน์กะพ้อ” เพื่อนสาวของพะนอขวัญ และแน่นอนว่าในอนาคตย่อมมีเรื่องราวของ “ดินแดน” ลูกคนเล็กในตระกูลอังสนากับ “ดวงบุหลัน” เพื่อนสาวของพะนอขวัญและจันทน์กะพ้อมาให้อ่านกันอีกด้วย

แล้วทำไมถึงบอกว่าเรื่องจันทน์กะพ้อทำให้ผิดหวัง? - หลายคนคงอาจจะเดาว่าเพราะเรื่องนี้ไม่สนุกใช่ไหม ...ในความคิดนั้น หากบอกว่าเรื่องนี้ไม่สนุก ก็ไม่ใช่ซะทีเดียว แต่หากจะให้พูดว่าสนุก ก็พูดได้ไม่เต็มปากเต็มคำ หรืออาจเพราะตั้งความหวังกับเรื่องนี้มากเกินไป เมื่อเป็นเหมือนที่มโนไว้จึงทำให้รู้สึกผิดหวังก็ได้

เหตุผลของความผิดหวังข้อที่ 01

เหตุผลนี้เชื่อว่านักอ่านแฟนคลับฬีฬาหลายคนคงประสบและพบเจอไม่ต่างกัน ซึ่งความรู้สึกผิดหวังนี้ไม่แน่ใจว่าควรยกความผิดนี้ให้ใครรับผิดชอบดี ระหว่างนักเขียนคนโปรด หรือสำนักพิมพ์ เพราะกว่าหนังสือเล่มนี้จะออกมาให้เราได้อ่านช่างยากเย็นแสนเข็ญ และกว่าจะได้หนังสือเล่มนี้มาครอบครองและได้อ่านอย่างสมใจต้องรอนานถึง 2 ปี!

หากมองในมุมนักเขียนหรือแม้กระทั่งนักอ่านบางคน เวลา 2 ปีกับการเขียนนิยายสักเรื่องไม่ใช่เวลาที่นานเลย แน่นอนว่าอันนี้เราเข้าใจได้ เพราะต่อให้นักเขียนใช้เวลาเขียนเรื่องนี้สัก 5 ปี แฟนคลับคนนี้คงไม่ว่าอะไรหรอก แต่ที่เคืองแสนเคืองคือ การที่มีข่าวจากสำนักพิมพ์ซึ่งส่งให้เหล่าแฟนคลับว่า หนังสือเล่มนี้จะวางจำหน่ายในงานหนังสือปีนี้ๆ นะ แต่สุดท้ายข่าวที่ว่านี้ไม่เคยเป็นจริงเลยสักครั้ง

ยกตัวอย่าง เมื่องานสัปดาห์หนังสือเมื่อเดือนเมษยน 59 ที่ผ่านมานี้ สำนักพิมพ์ก็ได้ลงข่าวคึกโคมบนหน้าเพจ FB ว่าจันทน์กะพ้อจะมีวางจำหน่ายในงานหนังสือครั้งนี้อย่างแน่นอน แต่สุดท้ายหนังสือเล่มนี้ก็ไม่เคยได้วางจำหน่ายในงานเลยสักวัน คุณลองคิดดูว่าตลอดสองปีที่รอคอย มีเหตุการณ์ทำนองนี้เกิดขึ้นหลายต่อหลายครั้ง คล้ายจะมาหลอกให้นักอ่านตื่นเต้น ดีใจ แต่สุดท้ายก็ทำให้ผิดหวังทุกครั้ง ...(เพิ่มเติม) ครั้งแรกที่สำนักพิมพ์บอกว่าจะวางจำหน่ายหนังสือเล่มนี้คือ ในงานสัปดาห์หนังสือเมื่อเดือนตุลาคม ปี 57

เหตุผลของความผิดหวังข้อที่ 02

เหตุผลนี้ก็ไม่รู้ว่าจะโยนความรู้สึกผิดหวังนี้ให้ใครรับผิดชอบอีกเช่นเคย และในความเห็นคิดว่าน่าจะเป็นผลพวงจากเหตุข้อที่ 01 ซึ่งหลังจากที่ทราบกันแล้วว่าหนังสือเล่มนี้กว่าจะคลอดออกมาให้อ่านนั้นใช้เวลานาน แล้วยังต้องพบเจอกับพายุความผิดหวังจากข่าวที่สำนักพิมพ์ปล่อยออกมา จึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากทางสำนักพิมพ์จะเร่งนำต้นฉบับไปเข้าโรงพิมพ์และเร่งตีพิมพ์ แม้ว่าจะไม่ทันตามกำหนดการข่าวที่ออกมา สุดท้ายแล้วหนังสือเล่มนี้ก็ได้ฤกษ์คลอดเมื่อวันที่ 3 พ.ค. 59 ที่ผ่านมา ...แน่นอนว่าแฟนคลับคนนี้ก็รีบ Pre-Order จากสำนักพิมพ์มาทันที แล้วความผิดหวังก็เกิดขึ้นอีกครั้ง

หนังสือที่ได้รับมานั้น เมื่อมองครั้งแรกก็เข้าใจว่าจันทน์กะพ้อเป็นนิยายเล่มเดียวจบ แต่ทันทีที่แกะห่อพลาสติกออกถึงได้รู้ว่า จันทน์กะพ้อมีสองเล่มจบและเป็นสองเล่มที่มีความหนาเท่ากับหนังสือหนึ่งเล่ม เพียงแต่เรื่องนี้ทางสำนักพิมพ์ตัดสินใจจะแบ่งออกเป็นสองเล่มเท่านั้นเอง

หากถามว่าการที่สำนักพิมพ์แบ่งหนังสือเป็นสองเล่มผิดไหม? แน่นอนว่าไม่ผิด เพราะมันเป็นสิทธิ์ในการตัดสินใจของสำนักพิมพ์ แต่ในความรู้สึกส่วนตัวกลับคิดว่าไม่น่าแบ่งเป็นสองเล่มเลย! พร้อมกับเกิดข้อสงสัยว่าพะนอขวัญก็เป็นนิยายเล่มเดียวจบในความหนาใกล้เคียงกับเรื่องนี้ แล้วทำไมต้องแบ่งเป็นสองเล่ม?

อาจจะเป็นเหตุผลทางธุรกิจที่ว่าต้องการเพิ่มมูลค่าให้หนังสือ ทำให้นิยายเรื่องนี้มีมูลค่ารวมที่แพงกว่าการทำเป็นเล่มเดียวก็ได้ ซึ่งหากเป็นเหตุผลนี้ ก็อยากบอกกับทางสำนักพิมพ์ว่าไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ เพราะไม่ว่าสำนักพิมพ์จะกำหนดราคาหนังสือไว้เท่าไร สุดท้ายแฟนคลับคนนี้ก็ต้องซื้อหนังสือเรื่องนี้มาครอบครองอยู่ดี

แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด ตามความเห็นแล้วการตัดสินใจแบ่งหนังสือเป็นสองเล่มที่แต่ละเล่มมีความหนาที่บางแสนบางนี้เป็นความคิดที่ไม่สวยงามเท่าไร เพราะในใจลึกๆ ของนักอ่านผู้คิดมากคนนี้ หวาดกลัวว่าจะทำเล่มใดเล่มหนึ่งหายไป นอกจากนี้ไม่รู้ว่าเป็นเพราะสำนักพิมพ์เร่งตีพิมพ์หรืออย่างไร ทำให้หนังสือที่ได้มีสภาพที่ไม่ค่อยเนี้ยบ หากเทียบกับหนังสือจากสำนักพิมพ์อื่นๆ ...แต่ยังไงซะ เหตุผลข้อนี้ก็เป็นความเห็นส่วนตัวเท่านั้น

เหตุผลของความผิดหวังข้อที่ 03

เหตุผลข้อเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้เขียนบันทึกนี้... อย่างที่กล่าวไปแล้วว่าฬีฬา เป็นนักเขียนที่มีผลงานคุณภาพมากมาย ดังนั้นความคาดหวังในความสนุกของเรื่องจันทน์กะพ้อที่ใช้เวลาเขียนนานถึง 2 ปีจึงไม่ใช่เรื่องแปลก แต่หลังจากอ่านเรื่องจบ ผลลัพธ์ที่ได้กลับเป็นความผิดหวัง - ไม่ใช่ว่าเรื่องนี้ไม่สนุก จันทน์กะพ้อเป็นเรื่องที่สนุกนะ แต่เป็นความสนุกที่ตื้นเขิน เป็นความสนุกแบบฉาบฉวยอะไรประมาณนี้ และนักอ่านคนนี้ไม่สามารถสัมผัสถึงความตั้งใจในการเขียนเหมือนเรื่องอื่นๆ เลย แต่กลับรู้สึกว่านักเขียนเพียงแค่เขียนเรื่องจันทน์กะพ้อให้จบๆ ไปเท่านั้นเอง

ไม่รู้ว่าจะเป็นการกล่าวที่ดูรุนแรงไปไหม แต่แฟนคลับคนนี้รู้สึกแบบนี้จริงๆ หากจะให้อธิบายแล้ว คงต้องเริ่มจาก...

เรื่องนี้มีปมปัญหาหลักอยู่ที่ "สายใยที่ขาดสะบันไปของจันทน์กะพ้อกับญาติไฮโซฝั่งคุณพ่อ - ตระกูลอักขรลักขณา" -- นี่คือประเด็นหลักของเรื่องที่ควรจะมีเหตุผลหรือแม้กระทั่งเหตุการณ์ที่ทำให้ต่างฝ่ายต่างหันหน้ามาทำความเข้าใจกันและกัน เพราะคนที่มีทิฐิสูงกว่า 20 ปีคงไม่ยอมลดทิฐิลงง่ายๆ เพียงแค่หลานสาวอย่างจันทน์กะพ้อมาอาศัยอยู่ด้วยเพียงสองสัปดาห์หรอก

และเนื่องด้วยปัญหานี้เสมือนเป็นพล็อตหลักของเรื่อง เป็นปัญหาใหญ่เพราะเป็นเรื่องวงตระกูล เรื่องของสายสัมพันธ์ในครอบครัวซึ่งเป็นเรื่องเปราะบาง ก็ควรมีเนื้อเรื่องที่เข้มข้นและลึกซึ้ง ไม่ว่าจะเป็นต้นตอของปัญหา การแก้ไข การหันหน้าเข้าหากัน ฯลฯ ควรมีความลึกซึ้งให้สมกับเป็นผลงานของฬีฬา เหมือนกับเรื่องอื่นๆ แต่สิ่งที่พบเจอคือปัญหานี้กลับคลี่คลายลงอย่างง่ายดายจนเหมือนยังไม่ได้รับการแก้ไข เสมือนตัดจบง่ายๆ หาทางออกแบบตัดช่องน้อยแต่พอตัว

พล็อตรองของเรื่องแน่นอนว่าจะต้องเป็นเรื่อง "ความรักของจันทน์กะพ้อกับเขตชล" -- นักเขียนวางอุปสรรค์ของความรักในคู่นี้เป็นเรื่องการก้าวข้ามความกลัวที่จะเปลี่ยนความสัมพันธ์จากเพื่อนมาเป็นคนรัก แต่จากสิ่งที่สัมผัสได้คือ นักเขียนไม่ได้พยายามเขียนให้เห็นว่าทั้งเขตชลและจันทน์กะพ้อก้าวข้ามความกลัวนี้ไปได้อย่างไร

และหากเอาผลงานเก่าของฬีฬามาเป็นมาตรฐานแล้ว ความรักมักมีอุปสรรค์มาขว้างกันเสมอ และความรักของฬีฬาล้วนแล้วต่างมีสีสันที่เรียกรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ น้ำตา และเสียงสะอื้นไห้อยู่เสมอ แต่ความรักของคู่นี้กลับราบเรียบจนกลายเป็นความรักที่จืดชืด ไม่สมกับเป็นความรักของฬีฬาเลย

นอกจากนี้ในเรื่องย่อมมีตัวร้ายที่จะมาเป็นมือที่สาม ซึ่งช่วยสร้างอุปสรรค์ให้ความรักของพระนาง ซึ่งเรื่องนี้ก็มีนะ แต่ตัวร้ายมือที่สามนี้กลับมาปรากฏอยู่ในฉากเพียง 2-3 ครั้ง แล้วเป็นการปรากฏตัวที่ไร้ประโยชน์ จนดูเหมือนเป็นตัวละครที่นักเขียนแค่สร้างขึ้นมาเป็นตัวประกอบเฉยๆ แถมยังเป็นตัวประกอบที่ไม่มีชื่อด้วย

ไม่เพียงเท่านี้ หลายปัญหาที่นักเขียนผูกปมไว้ก็ไม่ได้รับการแก้ไข... ในความเห็นนิยายที่ดีควรไขปมปัญหาทั้งหมดให้จบในเรื่อง ไม่ควรปล่อยให้ค้างคาใจคนอ่านหรืออยู่ๆ ปัญหานั้นก็หายไปเฉยๆ เสมือนไม่เคยมีมาก่อน แต่เรื่องนี้ปัญหาย่อยๆ หลายข้อที่นักเขียนผูกไว้ ไม่มีข้อไหนที่เคลียร์ชัดเจนเลย รวมทั้งตัวละครในเรื่องที่ดูเหมือนจะมีความสำคัญ แต่สุดท้ายกลับหายไปเฉยๆ -- เพื่อนเก่าจากบ้านนอก ที่พยายามสร้างภาพว่าเป็นไฮโซในชื่อนีน่า สุดท้ายแล้วเป็นอย่างไร หายไปไหน? คุณธรรม พี่ชายของจันทน์กะพ้อ ตัวเก็งทายาทผู้สืบทอดธุรกิจพันล้านของตระกูลอักขรลักขณา คิดอย่างไรและจะเป็นอย่างไรเมื่อจันทน์กะพ้อทายาทตัวจริงกลับมา? ตัวร้าย (ซึ่งในเรื่องทำหน้าที่เป็นเพียงตัวประกอบไม่มีชื่อ) ที่คอยรังควานและหาเรื่องจันทน์กะพ้อ หายไปไหน? ฯลฯ

อีกเรื่องที่ไม่เข้าใจ หากมองย้อนกลับไปที่เรื่องพะนอขวัญ เขตชล ซึ่งแม้จะไม่ได้เป็นพระเอกของเรื่อง แต่ก็เป็นตัวละครสำคัญที่นักเขียนถ่ายทอดอารมณ์และความรู้สึกออกมาให้คนอ่านรู้สึกอยากรู้จัก ซึ่งเป็นกลยุทธการเขียนเพื่อกระตุ้นให้นักอ่านเกิดความสนใจและติดตามนิยายเล่มต่อมา นั่นก็คือจันทน์กะพ้อนั่นเอง แต่สำหรับเรื่องนี้แล้ว กลับมี “แดนดิน” พระเอกในอนาคตออกมาโลกเล่นเพียงประเดี๋ยวประด๋าวเท่านั้น เหมือนผู้เขียนลืมวางกลยุทธการเขียนประเด็นนี้ไป เมื่อเทียบกับเรื่องพะนอขวัญ จะมีพูดถึงนางเอกเรื่องต่อไปอย่าง “ดวงบุหลัน” บ้างก็ตอนท้ายเรื่องประโยคสองประโยคเท่านั้นเอง

และทั้งหมดที่กล่าวมานี้ เป็นเพียงการยกตัวอย่าง ของความผิดหวังที่เกิดขึ้นเท่านั้น และขอย้ำ! ว่าทั้งหมดนี้เป็นความเห็นส่วนตัวที่นักอ่านมีต่อหนังสือเรื่องหนึ่งเท่านั้น เพราะไม่แน่ว่าทั้งหมดที่กล่าวมาอาจจะเป็นความตั้งใจของนักเขียนเองก็ได้ แต่ไม่ว่าจะผิดหวังแค่ไหน หากมีผลงานของฬีฬาเล่มใหม่ (ซึ่งก็มีข่าวแว่วๆ มาว่าจะเป็นเรื่องดวงบุหลัน เล่มต่อจากจันทน์กะพ้อ) ก็คงซื้อหามาอ่านเก็บเหมือนเดิม! ###

เรื่อง : จันทน์กะพ้อ (2 เล่มจบ) นักเขียน : ฬีฬา สำนักพิมพ์ : บ้านวรรณกรรม พิมพ์รวมเล่ม : เมษายน 2559 (แต่หนังสือวางจำหน่ายเมื่อต้นเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา) ราคา : 190 บาท/เล่ม

 
 
 

Comments


bottom of page